มาฆบูชา

วันมาฆบูชา คือวันที่สำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนาของชาวพุทธ

วันมาฆบูชาในปี พ.ศ. 2564 นี้ตรงกับวันศุกร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยรัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุด

เป็นวันที่เกิดความอัศจรรย์ ถึง 4 ประการดังนี้

1. เป็นวันเพ็ญ เดือน 3 มีพระจันทร์เต็มดวง มองเห็นได้ง่ายบนท้องฟ้าเริ่มหัวค่ำ และจะใหญ่และชัดเจน สว่างมากขึ้นเมื่อเวลา ดึกออกไป
2. คือวันที่ พระสงฆ์ที่บวชแบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา (พระพุทธเจ้าบวชให้ด้วยพระองค์เอง) เดินทางมาประชุมพร้อมกัน จำนวน 1,250 รูป โดยไม่ได้นัดหมายกันมา
3. พระภิกษุเหล่านั้นทุกรูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ทรง อภิญญา6 (คือเป็นผู้มีความสามารถพิเศษ ซึ่งพระในแต่ละรูปไม่เหมือนกัน เช่น มีหูเป็นทิพย์ มีตาเป็นทิพย์ เหาะเหินเดินบนอากาศได้ ดำดินได้ อ่านความคิดคนได้ เป็นต้น) เป็นปัญญาที่อยู่สูงกว่าปกติ เกิดจากการอบรมจิตจนเกิดปัญญา และการบำเพ็ญกรรมฐาน
4. พระภิกษุเหล่านั้น ไม่ได้ปลงผมมาด้วยใบมีดโกน เพียงแต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงประทานให้ด้วยพระองค์เองด้วยคำตรัสว่า “เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบเถิด ตรัสเพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นพิธี

ดังนั้นวันหยุดยาวๆ ในวันมาฆบูชาแบบนี้

ชาวพุทธอย่างเราๆ ควรน้อมนำคำสั่งสอน ของพระองค์ด้วยการรักษาศีล ถวายสังฆทาน ให้ทาน ฝึกเจริญสมาธิ ร้านหนึ่งสังฆภัณฑ์ เครื่องบวช ของใช้พระ เช่น ผ้าไตร บาตรสแตนเลส ย่ามพระ อาสนะ ตาลปัตร รวมถึง สังฆทานแบบต่างๆ ของห่อใหม่ ไม่หมุนเวียน พระสงฆ์นำไปใช้งานได้จริง ราคาย่อมเยาว์ นอกจากการทำบุญดังกล่าวแล้ว หากท่านมีเวลา ควรเข้าวัดเพื่อเวียนเทียน ฟังเทศน์ เพื่อชำระจิตให้ขาวรอบ รู้เท่าทันอารมณ์ และนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั้งการทำงาน และชีวิตครอบครัวจะมีแต่ความเจริญยิ่งขึ้นไป. .